หนี้
่ตอนที่ 2.1 กำหนดเวลาชำระหนี้
มี 2 กรณี
1. หนี้ที่ิมิได้กำหนดเวลาชำระหนี้
2. หนี้ที่ิมีกำหนดเวลาหนี้
เรื่องที่ 2.1.1 หนี้ที่มิได้กำหนดเวลาชำระหนี้
ม.203 วรรคแรก "ถ้าเวลาอันจะพึงชำระหนี้นั้นมิได้กำหนดไว้ หรือจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้ย่อมจะเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน และฝ่ายลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ของตนได้โดยพลันดุจกัน"
เรื่องที่ 2.1.2 หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระหนี้
1. กำหนดเวลาชำระหนี้แต่เป็นที่สงสัย ม.203 วรรคสอง "ถ้าได้กำหนดเวลาไว้ แต่หากเป็นกรณีเป็นที่สงสัย ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าหนี้จะเรียกให้ชำระหนี้ก่อนถึงเวลานั้นหาได้ไม่ แต่ฝ่ายลูกหนี้จะชำระหนี้ก่อนกำหนดนั้นก็ได้"
2. กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ไม่เป็นที่สงสัย แบ่งเป็น 2 อย่าง
(1) กำหนดเวลาชำระหนี้ตามวันแห่งปฏิทิน ม.204 วรรคสอง "ถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน และลูกหนี้มิได้ชำระหนี้ตามกำหนดไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้องเตือนเลย วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนการชำระหนี้ซึ่งได้กำหนดเวลาลงไว้อาจคำนวณนับได้โดยปฏิทินนับแต่วันที่บอกกล่าว"
(2) กำหนดเวลาชำระหนี้มิใช่ตามวันแห่งปฏิทิน ม.204 วรรคแรก "ถ้าหนี้ถึงกำหนดชำระแล้วและภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้ได้ให้คำเตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ไซร้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว"
ตอนที่ 2.2 การผิดนัดไม่ชำระหนี้
เรื่องที่ 2.2.1 การผิดนัด แยกได้ 2 กรณี
1. ลูกหนี้ผิดนัดโดยต้องเตือนก่อน มีอีก 2 กรณี
(1) หนี้ทีกำหนดเวลาชำระหนี้มิใช่ตามวันแห่งปฏิทิน ม.204 วรรคแรก
(2) หนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระตาม มาตรา 203
2. ลูกหนี้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม่ต้องเตือน มีอีก 2 ประเภท
(1) หนี้ที่มีกำหนดชำระตามวันแห่งปฏิทิน ม.204 วรรคสอง
(2) หนี้ละเมิด ม.206 "ในกรณีหนี้อันเกิดแต่มูลละเมิด ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดมาแต่เวลาที่ทำละเมิด"
พฤติการณ์ซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบหนี้
1. เป็นเหตุที่เกิดจากเจ้าหนี้เอง
2. เหตุเกิดจากบุคคลภายนอก
3. เกิดจากภัยธรรมชาติ
เรื่องที่ 2.2.2 ผลของการผิดนัด
1. ลูกหนี้ต้องรับผิดในความเสียหายอันเกิดแต่การผิดนัด
ม.215 "เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ให้ต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ไซร้ เจ้าหนี้จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การนั้นก็ได้"
2. เจ้าหนี้อาจไม่รับชำระหนี้
ม.216 "ถ้าโดยเหตุผิดนัด การชำระหนี้กลายเป็นอันไร้ประโยชน์แก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้จะบอกปัดไม่ชำระหนี้และจะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อการไม่ชำระหนี้ก็ได้"
ปพพ. มาตรา 388
"ถ้า วัตถุที่ประสงค์ แห่งสัญญานั้น ว่าโดยสภาพ หรือ โดยเจตนาที่คู่สัญญา ได้แสดงไว้ จะเป็นผลสำเร็จได้ ก็แต่ด้วยการชำระหนี้ ณ เวลาที่กำหนดก็ดี ก็ดี หรือ ภายในระยะเวลา อันใดอันหนึ่ง ซึ่ง กำหนดไว้ ก็ดี และ กำหนดเวลา หรือ ระยะเวลานั้น ได้ล่วงพ้นไป โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มิได้ชำระหนี้ไซร้ ท่านว่า อีกฝ่ายหนึ่ง จะเลิกสัญญานั้นเสีย ก็ได้ มิพักต้องบอกกล่าว ดังว่าไว้ ในมาตราก่อนนั้นเลย"
ปพพ. มาตรา 387
"ถ้า คู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง ไม่ชำระหนี้ อีกฝ่ายหนึ่ง จะกำหนดระยะเวลา พอสมควร แล้วบอกกล่าว ให้ฝ่ายนั้น ชำระหนี้ ภายในระยะเวลานั้น ก็ได้ ถ้าและ ฝ่ายนั้น ไม่ชำระหนี้ ภายในระยะเวลา ที่กำหนดให้ไซร้ อีกฝ่ายหนึ่ง จะเลิกสัญญาเสีย ก็ได้"
3. ลูกหนี้ต้องรับผิดชอบในความเสียหายอันเกิดระหว่างผิดนัดเพิ่มขึ้น
ปพพ. มาตรา 217
"ลูกหนี้ จะต้องรับผิดชอบ ในความเสียหาย บรรดาที่เกิดแต่ ความประมาทเลินเล่อ ในระหว่างเวลา ที่ตนผิดนัด ทั้งจะต้องรับผิดชอบ ในการที่ การชำระหนี้ กลายเป็น พ้นวิสัย เพราะอุบัติเหตุ อันเกิดขึ้น ในระหว่างเวลา ที่ผิดนัดนั้นด้วย เว้นแต่ ความเสียหายนั้น ถึงแม้ว่า ตนจะได้ชำระหนี้ ทันเวลากำหนด ก็คงจะต้อง เกิดมีอยู่นั่นเอง"
ตอนที่ 2.3 เจ้าหนี้ผิดนัด
เรื่องที่ 2.3.1 เหตุที่เจ้าหนี้ผิดนัด แยกเป็น 2 กรณี
1. เจ้าหนี้ไม่รับชำระหนี้
ปพพ. มาตรา 207
"ถ้า ลูกหนี้ ขอปฏิบัติการชำระหนี้ และ เจ้าหนี้ไม่รับชำระหนี้ โดยปราศจากมูลเหตุ อันจะอ้างกฎหมายได้ไซร้ ท่านว่า เจ้าหนี้ ตกเป็น ผู้ผิดนัด"
ปพพ. มาตรา 320
"อันจะบังคับให้ เจ้าหนี้ รับชำระหนี้ แต่เพียงบางส่วน หรือ ให้รับชำระหนี้ เป็นอย่างอื่น ผิดไปจาก ที่จะต้องชำระแก่ เจ้าหนี้นั้น ท่านว่า หาอาจจะบังคับได้ไม่"
ปพพ. มาตรา 211
"ในเวลาที่ ลูกหนี้ ขอปฏิบัติการชำระหนี้นั้น ก็ดี หรือ ในเวลาที่กำหนดไว้ให้ เจ้าหนี้ ทำการ อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยกรณีที่ บัญญัติไว้ใน มาตรา ๒๐๙ นั้น ก็ดี ถ้า ลูกหนี้ มิได้อยู่ในฐานะ ที่จะชำระหนี้ได้ไซร้ ท่านว่า เจ้าหนี้ ยังหาผิดนัดไม่"
ปพพ. มาตรา 208
"การชำระหนี้ จะให้สำเร็จผลเป็นอย่างใด ลูกหนี้จะต้อง ขอปฏิบัติการชำระหนี้ ต่อเจ้าหนี้ เป็นอย่างนั้น โดยตรง
แต่ถ้า เจ้าหนี้ ได้แสดงแก่ลูกหนี้ว่า จะไม่รับชำระหนี้ ก็ดี หรือ เพื่อที่จะชำระหนี้ จำเป็นที่เจ้าหนี้ จะต้องกระทำการ อย่างใดอย่างหนึ่ง ก่อน ก็ดี ลูกหนี้จะบอกกล่าว แก่เจ้าหนี้ว่า ได้เตรียมการ ที่จะชำระหนี้ ไว้พร้อมแล้ว ให้เจ้าหนี้ รับชำระหนี้นั้น เท่านี้ก็นับว่า เป็นการเพียงพอแล้ว ในกรณีเช่นนี้ ท่านว่า คำบอกกล่าว ของลูกหนี้นั้น ก็เสมอกับ คำขอปฏิบัติการชำระหนี้"
ปพพ.มาตรา 212
"ถ้าไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ก็ดี หรือถ้าลูกหนี้มีสิทธิที่จะชำระหนี้ได้ก่อนเวลากำหนดก็ดี การที่เจ้าหนี้้มีเหตุขัดข้องชั่วคราวไม่อาจชำระหนี้ที่เขาขอปฏิบัติแก่ตนได้นั้น หาทำให้เจ้าหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดไม่ เว้นแต่ลูกหนี้จะได้บอกกล่าวการชำระหนี้ไว้ล่วงหน้าด้วยเวลาอันสมควร"
2. เจ้าหนี้ไม่เสนอที่จะชำระหนี้ตอบแทน
ปพพ. มาตรา 369
"ในสัญญาต่างตอบแทนนั้น คู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง จะไม่ยอมชำระหนี้ จนกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง จะชำระหนี้ หรือ ขอปฏิบัติการชำระหนี้ ก็ได้ แต่ความข้อนี้ ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้า หนี้ของคู่สัญญา อีกฝ่ายหนึ่ง ยังไม่ถึงกำหนด"
ปพพ. มาตรา 210
"ถ้า ลูกหนี้ จำต้องชำระหนี้ ส่วนของตน ต่อเมื่อ เจ้าหนี้ ชำระหนี้ตอบแทนด้วยไซร้ แม้ถึงว่า เจ้าหนี้ จะได้เตรียมพร้อม ที่จะรับชำระหนี้ ตามที่ลูกหนี้ ขอปฏิบัตินั้นแล้ว ก็ดี หากไม่เสนอที่จะ ทำการชำระหนี้ตอบแทน ตามที่จะ พึงต้องทำ เจ้าหนี้ ก็เป็นอันได้ชื่อว่า ผิดนัด"
เรื่องที่ 2.3.2 ผลของการที่เจ้าหนี้ผิดนัด
ปพพ. มาตรา 221
หนี้เงิน อันต้องเสียดอกเบี้ยนั้น ท่านว่า จะคิดดอกเบี้ย ในระหว่างที่ เจ้าหนี้ผิดนัด หาได้ไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น